วันนี้มาอัพเดทด้วย Task 2 ค่ะ เป็นสนทนาเล่าเรื่องจากภาพการ์ตูน 4 ช่อง
เรื่องคร่าวๆ ก็คือมีผู้ชายสองคนนั่งอยู่ในล็อบบี้โรงแรมค่ะ
คนหนึ่งนั่งเฉยๆ อีกคนนั่งอ่านหนังสือ คนที่นั่งเฉยๆ ก็มองรอบๆ ไปเรื่อย
หันไปเจอนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ดูกำลังหลงทางอยู่พอดี (ในมือถือแผนที่ไว้ด้วย)
สบตาปิ๊งๆ กันพอดี นักท่องเที่ยวคนนั้นก็จะเดินเข้ามาถามทาง
พอเห็นดังนั้น ผู้ชาย(ที่คาดว่าไม่น่าจะแม่นภาษาต่างประเทศ) ก็ดึงหนังสือพิมพ์คนข้างๆ
แล้วเข้าไปหลบในนั้นเฉยเลย
เรื่องดูยาวมาก พอลองพูดเป็นภาษาญี่ปุ่นได้มาแบบนี้เจ้าค่ะ
私:あのう、昨日ホテルを出ようとしてる時、こんなことを見ましたよ。
聞き手:どんなこと?
私:えーと、ホテルには二人の男の人がいました。
で、一人はちょっと年上の人なんですけれども、まあ 新聞を読んでいました。
(ตรงนี้นึกคำไม่ออก เลยเผลอพูด まあ คิดว่าเป็นสิ่งที่ควรแก้ไขมากๆ)
あと一人は会社員っぽいな男の人で、のんびりしていました。
なんとか、そこを見るとかそこを見るとかしてました。
(ต้องการจะพูดว่า "กำลังมองนู่นมองนี่" อยู่ เลยกลายเป็นแบบนี้ซะงั้นเลย)
で、のんびりしている途中で、外国人を見つかりました。
(คิดว่าไม่น่าใช้คำว่า 途中 ควรจะเป็น 間に มากกว่า พอเป็น 途中 แล้วรู้สึกเชิงการเดินทางมากกว่า)
外国人は迷っているみたいなんです。
えーと、地図とか持っていました。
(ควรมีคำเชื่อมสักอย่างเพื่อให้คล้องจองกับประโยคด้านบน ไม่ห้วนเกินไป)
で、二人の目が当たりました。
(จะพูดว่าสบตากัน แต่ไม่รู้คำ มั่วได้มาเป็นคำนี้)
外国人は まあ 会社員さんに道を聞こうかなと思って、会社員さんの方に歩き出しました。
(思う นี่ดูเป็นกริยาที่เราเป็นผู้กระทำ แต่กรณีนี้จะบอกว่าชาวต่างชาติคิด ก็ควรจะเป็น 思っている ไม่ก็บอกไปว่า "คงคิดว่าจะถามทาง" 思っているかもしれない แทนน่าจะดีกว่า)
でも、会社員さんは多分外国語はあまり好きじゃないかなあと思って、で、隣の人に新聞を取って、新聞を読みそうな、えー、読んでいる格好をしました。
(เรื่อง 思う แบบเดียวกับด้านบนค่ะ
ตรงนี้มีจุดที่ไม่รู้จะใช้สำนวนแบบไหนเยอะอยู่เหมือนกัน
อันดับแรกคือ ดึงหนังสือพิมพ์แล้วไปหลบอยู่ข้างหลัง
สองคือ ทำท่าทางเหมือนอ่านหนังสือพิมพ์)
で、外国人はそれを見ると、起こってるみたいです。
เวลานึกคำเชื่อมไม่ออก จะไปใช้ で ตลอดเลยค่ะ ใช้เยอะมาก
--------------------------------------
เทียบเป็นคะแนนเนี่ย ให้ตัวเอง 4/10 พอ รู้สึกต่ำต้อยด้านภาษาเหลือเกิน
หลังจากนั้นได้ดูตัวอย่างที่อาจารย์ให้มา และนำมาปรับแก้ดังต่อไปนี้
私:あのう、昨日ホテルを出ようとしてる時、こんなことを見ましたよ。
聞き手:どんなこと?
私:えーと、ロビーのソファに二人の男性人が座っていたんです。
เพิ่มรายละเอียดผู้ชายสองคน และใช้รูป んです เพื่อให้เล่าเรื่องได้เป็นธรรมชาติมากขึ้น
一人はおじさんのような中年みたいで、新聞を読んでいました。
あと一人はスーツを着ているので、たぶん会社員かもしれないと思いました。
เพิ่มเติมรายอะเีอียดเพื่อสนับสนุนเหตุผลว่าทำไมถึงคิดว่าเป็นพนักงานบริษัท
会社員みたいな男性はぼーとして、見回していました。
มองนู่นมองนี่ ได้มาเป็นประโยคนี้ที่ดูเป็นภาษาที่คนปกติใช้กัน (คิดว่านะ)
そうしたら、偶然男性の外国人と目が合ってしまったんです。
ใส่คำวิเศษณ์ そうしたら เข้าไป เรื่องจะได้ดูลื่นไหลมากขึ้น
เติม 偶然 เข้าไปเพื่อแสดงว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ตั้งใจ
สบตากันก็เป็นคำว่า 目が合う และใช้รูป ~てしまう ~んです
その外国人はカメラと地図と持っているので、道に迷っているか、行き先を地図に探していたでしょう。
พอดูดีๆ ตรงที่บอกว่าหลงทางน่าจะเป็น 道に迷っているかどうか
ส่วนด้านหลังที่เป็น でしょう น่าจะเขียนว่า 探していたんじゃないかと思っています。
道のことについて尋ねたい思いで会社員に近づいていきました。
จากข้างบนที่มีปัญหาเรื่อง 思う ได้มาเป็นประโยคนี้แทน
ส่วน の方に歩き出しました เป็น 近づいていきました。
(แต่ก็แอบงงๆ ว่าจะเป็น てきました หรือเปล่า)
会社員は外国語が下手かどうか尋ねられたくないかどうか分からないんですが、外国人が自分に近づいてくると気付いたら、隣のおじさんが読んでいる新聞の陰に隠れてしまったんです。
ประโยคนี้ค่อนข้างยาวนิดนึง ได้สำนวนหลบหลังหนังสือพิมพ์ตามที่เขียนเส้นใต้เลย
外国人はただ道を尋ねたいだけですが、このような隠れてしまうことをされたなんて、信じられなくて、腹が立っていました。
พอลองอ่านดูแล้ว ประโยคนี้ดูไปตัดสินความคิดของ 外国人 เอาเองเลย
ควรเปลี่ยนเป็น 尋ねたいだけかもしれないんですが、~腹が立っていたでしょう。
พอได้ลองพิจารณาอีกครั้ง ก็ค้นพบจุดที่น่าแก้ไขอยู่
อย่างน้อยก็ไม่เยอะเท่าอันแรกที่ทำ
ถ้าคิดเป็นคะแนนแล้ว จาก 4/10 คงเพิ่มเป็นสัก 8.5/10 ละกันนะ ^___^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น